5820 จำนวนผู้เข้าชม |
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีพื้นที่ครอบ คลุมในท้องที่ 8 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ อำเภอแม่จริม ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 1,704 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,065,000 ไร่ จึงทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าอันจะเห็นได้จากการพบพืชพรรณ และสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิด และนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดน่าน
แหล่งท่องเที่ยวที่เราไม่ควรพลาด !!!
ชมต้นชมพูภูคา
จุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุดอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 (บัว-บ่อเกลือ) ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคาประมาณ 4 กิโลเมตร โดยทางอุทยานแห่งชาติจัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ ยืนต้นสูงขึ้นมาจากหุบเขา ต้นชมพูภูคาต้นนี้เป็นต้นเดียวกับที่ ดร.ธวัชชัย สันติสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤษศาสตร์ พบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2532 ฤดูกาลที่เหมาะสมแก่การมาชมต้นชมพูภูคา คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งต้นชมพูภูคาจะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง พลาดไม่ได้เลยนะคะ
จุดชมวิว1715 และ จุดชมวิวลานดูดาว
จุดชมวิว 1715 เป็นจุดชมทิวทัศน์ขุนเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่มาของตัวเลข ก็คือระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1715 เมตรนั่นเอง จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และชมวิวทะเลหมอก ดูนกได้ โดยมีระยะทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา 8 กิโลเมตร บนเส้นทางสายปัว - บ่อเกลือ
เรามานอนเต็นท์ + ชมพระอาทิตย์ตก ณ ลานดูดาว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน
ลานกางเต็นท์ ลานดูดาว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน เป็นจุดกางเต็นท์กลางเขตป่าดึกดำบรรพ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ห้อมล้อมด้วยแมกไม้ป่านานาชนิด ด้านหลังของลานดูดาว เป็นจุดที่ชมอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยานฯดอยภูคา พื้นที่บริเวณนี้ จุดเด่นคือ จะมีต้นชมพูภูคา พันธุ์ไม้หายาก ให้ชมความงดงาม ซึ่งจะพบได้เฉพาะเขตพื้นที่สูงที่มีอากาศหนาวเย็นค่อนข้างตลอดทั้งปี จากลานกางเต็นท์ เดินไม่เกิน 20 เมตร ก็จะถึง จุดชมพระอาทิตย์ตก มาถึงที่นี่เราต้องมานอนกางเต็นท์นะคะ ได้บรรยากาศสุดๆ
ดอยภูแว
เป็นถ้ำขนาดกลางซึ่งประกอบด้วยคูหาถ้ำจำนวนมากที่ต่อเนื่องถึงกัน แต่ละคูหามีหินงอกหินย้อยรูปลักษณ์ต่างๆ สวยงาม ในช่วงฤดูฝนถ้ำผาฆ้องจะมีสายน้ำไหลผ่าน จึงไม่สามารถเข้าไปเที่ยวได้ ผู้สนใจชมถ้ำผาฆ้องต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่ช่วยนำทางและเตรียมไฟฉายไปด้วย จุดเริ่มต้นเดินเท้าไปถ้ำผาฆ้องอยู่ที่บ้านป่าไร่ ซึ่งอยู่ในอำเภอปัว ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 บริเวณกิโลเมตรที่ 18 ระยะทางเดินประมาณ 3.5 กิโลเมตร สำหรับใครที่ชอบลุยๆ ที่ถ้ำแห่งนี้ก็เป็นอีกที่ที่เราไม่ควรพลาดเลยนะคะ ไปชมความงามของหินที่ย้อยตามธรรมชาติ มีความแปลกตาแต่สวยงามมาก
น้ำตกต้นตอง
เป็นน้ำตกหินปูนความสูงรวมทั้งหมดประมาณ 60 เมตร แบ่งออกเป็น 3 ชั้น น้ำจะไหลดิ่งลงมาตามโตรกผาสูงโดยมีแนวหินปูนน้อยใหญ่วางตัวสลับกันเป็นขั้นๆ เพื่อชะลอแรงน้ำและยังทำให้น้ำตกต้นตองมีความสวยงามมากขึ้นไปอีก ทางเดินของเราจะมาสุดอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของน้ำตก ส่วนการขึ้นไปชมชั้นอื่นๆ ของน้ำตกนั้นไม่มีเส้นทางเดินที่จัดเตรียมไว้ เนื่องจากผาหินที่สูงชันบวกกับกระแสน้ำที่ค่อนข้างแรงถึงแม้จะอยู่ในช่วงหน้าแล้งก็ตาม ทางอุทยานฯ จึงไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวปีนป่ายขึ้นไปบนน้ำตก สภาพรอบน้ำตกร่มรื่นเหมาะแก่การเล่นน้ำและเที่ยวพักผ่อน มาทั้งที่ก็อย่าลืมที่จะแวะมาที่นี่นะคะ น้ำตกตั้งอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทางเดินจากถนนเข้าไปถึงตัวน้ำตกระยะทางเพียง 400 เมตร
น้ำตกภูฟ้า
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 140 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาอย่างงดงามเป็นจำนวนถึง 12 ชั้น น้ำตกตั้งอยู่ท่ามกลางป่าดิบเขาอันอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตลอดปี แม้ว่าจะเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในพื้นที่ แต่ต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 3 วัน ผู้สนใจการเดินป่าตามเส้นทางสายนี้ ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แถมที่นี่มีกิจกรรมเด็ดๆสำหรับผู้ชอบความท้าทาย ก็คือการโรยตัวจากน้ำตกภูฟ้าแต่ต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ
น้ำตกศิลาเพชร
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ อยู่ทางตอนกลางของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา น้ำตกมี 3 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี สายน้ำตกลงมาจากหน้าผาหลายชั้นไภายในน้ำตกมีน้ำตกที่ใสสะอาด โขดหินอันสวยงาม ต้นไม้ที่ร่มรื่น ทั้งสองฝั่งของน้ำตกจะเป็นหน้าผาลาดชัน มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม และห้องสุขาไว้บริการด้านหน้าก่อนเข้าถึงตัวน้ำตก การเดินทางใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 ถึงหมู่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว แล้วแยกจากทางหลวงเข้าสู่น้ำตก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพทางสะดวก
เราไปดูที่นี่กันบ้างนะคะ ป่าปาล์มดึกดำบรรพ์
เป็นป่าปาล์มขนาดใหญ่ของประเทศไทย มีพื้นที่เฉพาะรอบๆ ดอยภูแว ไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่ ลักษณะเป็นป่าปาล์มธรรมชาติดงดิบ แทบจะไม่มีพันธุ์ไม้อื่นใดปะปน ชาวเขาเผ่าแม้วเรียก ปาล์มชนิดนี้ว่า “ต้นจิ๊ก” ไส้ในของลำต้นที่อ่อนใช้ประกอบอาหารรับประทานแทนข้าวได้
กิจกรรมดีๆที่ดอยภูคา น่าสนใจมากก็คือ การเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติและบริเวณที่กางเต็นท์ เส้นทางจะขึ้นเขา ผ่านป่าที่กำลังฟื้นสภาพจากการถูกบุกรุกทำลายในอดีต จากนั้นจึงเข้าสู่ป่าดิบเขาที่มีไม้ใหญ่ร่มครึ้มและสภาพป่าชุ่มชื้น เมื่อผ่านดงกล้วยป่าแล้วจะพบทางเดินลงไปชมจุดเด่นของเส้นทางนี้คือ ต้นชมพูภูคา ไม่ไกลจากต้นชมพูภูคาจะพบต้นเต่าร้างยักษ์ ซึ่งเป็นปาล์มหายากและใกล้สูญพันธุ์ ลำต้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าต้นเต่าร้างทั่วไป เมื่อโตเต็มที่จะสูง 8-12 เมตร ต้นเต่าร้างยักษ์มักขึ้นตามไหล่เขา ที่ลาดชัน และตามหน้าผาในป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,500-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดอยภูคาเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่พบต้นเต่าร้างยักษ์สำหรับ ในพื้นที่อื่น คาดว่าจะมีต้นเต่าร้างยักษ์อยู่ในป่าดิบเขาบนทิวเขาหลวงพระบางในฝั่งประเทศ ลาว
ร้านอาหารภูคาคาเฟ่ (PHUKHA CAFE)
ร้านน่ารักอาหารอร่อย ขนม&กาแฟก็รสชาติดี มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะเลย บรรยากาศในร้านก็อบอุ่นเป็นกันเองมาก ถ้าจะไปน่านอย่าลืมแวะไปที่ร้านอาหารภูคากันด้วยนะคะ
เส้นทาง 254 ม.4 ถ.น่าน-พะเยา ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน (564.48 km) เทศบาลเมืองน่าน 55000
เบอร์ติดต่อ 065 808 4807
เวลาทำการ: 08:00 - 20:00
การเดินทางไปดอยภูคา จากจังหวัดน่าน เดินทางโดนรถยนต์ ทางหลวงหมายเลข 1080 สู่ อ.ปัว ระยะทาง 60 กิโลเมตร จากนั้นแยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ระยะทาง 25 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ชมโปรแกรมทัวร์น่าน สะปัน บ่อเกลือ ปัว ถนนลอยฟ้าโค้งเลข 3 : https://bit.ly/3FzAquL
ชมโปรแกรมทัวร์น่าน ทัวร์บ่อเกลือ ทัวร์ปัว : goo.gl/kycwFo
ชมโปรแกรมทัวร์น่าน ทัวร์บ่อเกลือ ทัวร์ชมดอกนางพญาเสือโคร่งขุนสถาน ชมดอกชมพูภูคา : goo.gl/PrJApb
รวมโปรแกรมทัวร์น่าน ทัวร์แพร่ ทัวร์พะเยา : goo.gl/HwePGG
รวมแพคเกจทัวร์ภาคเหนือ โปรแกรมทัวร์ภาคเหนือ : goo.gl/zuP83W
อยากเที่ยวโทร : 02-4443173, 089-219-0822
Line id : MagicOntour
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการนำเที่ยวเลขที่ 11/05819
www.magic-ontours.com
+++ ติดตามเราได้ที่ เมจิกออนทัวร์ +++